โค้ชลี นา ยอน กลับมาคุมเทควันโด ประเภทพุมเซ่ ทีมชาติไทยอีกครั้ง ขณะที่ “เลขาบิ๊ก” ธนฑิตย์ รักตะบุตร มั่นใจกับผลงานพาทีมคว้า 82 แชมป์ทั่วโลก
กีฬาเทควันโด ประเภทท่ารำ ได้โค้ชลี นา ยอน รีเทิร์นคุมพุมเซ่ทีมชาติไทยอีกครั้ง หลังจากสร้างผลงาน คว้าเกือบทุกแชมป์ให้ทัพพุมเซ่ไทย รวม 82 ทอง ตลอดที่เคยคุมทีมชาติมา 7 ปี ก่อนลาไปเรียน ป.โท โดย “เลขาบิ๊ก”ธนฑิตย์ รักตะบุตร เลขาธิการสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ชักชวนมาร่วมทีมชาติอีกครั้ง สัญญาปีต่อปี เชื่อมั่นในฝีมือจะพาทีมพุมเซ่ไทยประสบความสำเร็จ เพราะโค้ชสาวแดนกิมจิ มีดีจนชาติไหนไม่กล้าโกงไทย
“เลขาบิ๊ก”ธนฑิตย์ รักตะบุตร เลขาธิการสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ออกมาเปิดเผยว่า หลังจากที่สมาคมได้ประกาศรับสมัครผู้ฝึกสอนเทควันโด พุมเซ่ ทีมชาติไทย เมื่อต้นปีที่ผ่านมา จากนั้นก็ยังไม่มีผู้สมัครเข้ามา ทำให้ตนต้องรีบหาโค้ชพุมเซ่คนใหม่โดยเร็ว ซึ่งเมื่อช่วงปีใหม่ ตนมีโอกาสได้คุยกับ โค้ชลีนา ยอน ซึ่งเป็นโค้ชพุมเซ่ ทีมชาติไทยมาหลายปี สร้างผลงานมามากมาย แต่โค้ชลี ต้องกลับไปศึกษาต่อระดับปริญญาโท จึงต้องลาออกไป และเมื่อปีที่แล้ว สมาคมก็ยังเคยทาบทามให้โค้ชชี กลับมาคุมทีมชาติ ซึ่งเธอก็ไม่ได้ตอบรับ เพราะติดเรื่องการเรียน จนได้คุยกันวันนั้น เราได้อวยพรปีใหม่กันเป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว ตนก็เลยถามไปอีกครั้งว่า ยินดีจะมาเป็นโค้ชพุมเซ่ ทีมชาติไทยอีกครั้งไหม ซึ่งคราวนี้เธอขอไปจัดการเรื่องเรียนก่อน จนล่าสุด โค้ช ลี นา ยอน ตอบรับจะมาเป็นโค้ชเทควันโดทีมชาติไทย ในระยะสัญญาปี ต่อปี
“โค้ช ลี นา ยอน เป็นโค้ชที่เก่ง มีภาวะความเป็นผู้นำสูง และที่สำคัญถ้าได้โค้ชลี มาคุมพุมเซ่ไทย เราจะไม่เสียเปรียบชาติไหนได้เลย เพราะเธอมีความสัมพันธ์ที่ดีระดับเครือญาติกับบุคคลระดับสูงในวงการพุมเซ่โลก ถึงแม้ทีมพุมเซ่ ไทยจะไม่ได้เปรียบชาติไหน แต่ก็จะไม่เสียเปรียบเช่นกัน การที่ได้โค้ชลี มาคุมทีมชาติอีกครั้ง ถือว่าเป็นข่าวดี เพราะเธอรู้จักนักกีฬาพุมเซ่ไทยเป็นอย่างดี ซึ่งทันทีที่โค้ชมาทำงาน ทางสมาคมกีฬาเทควันโด ก็ได้เปิดให้มีการคัดตัวนักกีฬาทีมชาติทันที โดยจะคัดในระดับประชาชนเท่านั้น ซึ่งตอนนี้เราก็ได้ทราบผลการคัดเลือกแล้วว่ามีใครบ้าง หลังจากนี้ก็จะมีการเก็บตัวฝึกซ้อมเพื่อเตรียมไปร่วมทำการแข่งขันหลายรายการในปีนี้ โดยเฉพาะเอเชี่ยน อินดอร์ และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในช่วงปลายปีนี้ ทีมพุมเซ่ไทยจะต้องทำผลงานให้ดี” เลขาบิ๊ก กล่าว
สำหรับผลงานการคุมเทควันโดพุมเซ่ ทีมชาติไทย ในช่วงปี 2559-2565 รวม 7 ปี มีผลงานมากมาย ประกอบด้วย คว้า 1 ทอง 1 เงิน ชิงแชมป์โลก 2016, ปี 2017 คว้า 1 ทอง เอเชี่ยน อินดอร์ฯ, คว้า 1 ทอง 1 เงิน ซีเกมส์, คว้า 2 ทอง เวิลด์ เทควันโด ฮามาดัง, คว้า 4 ทอง 2 เงิน 2 ทองแดง โคเรีย โอเพ่น อินเตอร์เนชันนัล, คว้า 6 ทอง 2 เงิน 2 ทองแดง เวิลด์ เทควันโด บีช แชมเปี้ยนชิพ, คว้า 2 ทอง 3 เงิน ชิงแชมป์เอเชีย รุ่นคาเด็ต, คว้า 1 ทอง 1 เงิน 2 ทองแดง ชิงแชมป์เอเชีย รุ่นเยาวชน, ปี 2018 คว้า 5 เงิน 5 ทองแดง ชิงแชมป์โลก, คว้า 1 ทอง เอเชี่ยนเกมส์, คว้า 7 ทอง 8 เงิน 5 ทองแดง เจจู โคเรีย โอเพ่น,คว้า 5 ทอง 3 เงิน 4 ทองแดง เวิลด์ เทควันโด บีช แชมเปี้ยนชิพ, คว้า 1 ทอง 2 เงิน 4 ทองแดง, คว้า 2 ทอง 3 เงิน 1 ทองแดง มาเลเซีย โอเพ่น
ปี 2019 คว้า 1 ทอง 2 เงิน 3 ทองแดง ซีเกมส์, คว้า 19 ทอง 13 เงิน 9 ทองแดง บีชเกมส์, คว้า 6 ทอง 3 เงิน 4 ทองแดง ชิงแชมป์โลก, คว้า 1 ทอง 1 เงิน 2 ทองแดง เอเชียน โอเพ่น, คว้า 6 ทอง 3 เงิน 4 ทองแดง เวิลด์ เทควันโด ฮามาดัง, คว้า 5 ทอง 3 เงิน ชิงแชมป์เอเชีย รุ่นคาเด็ต, คว้า 2 ทอง 3 เงิน 3 ทองแดง ชิงแชมป์เอเชีย รุ่นเยาวชน, ปี 2020 ช่วงโควิด แพร่ระบาด ทำให้มีการแข่งขันในแบบออนไลน์ คว้า 4 ทอง 1 เงิน 1 ทองแดง เวลิด์ เทควันโด คัลเจอร์ เอ็กซ์โป ออนไลน์, คว้า 3 ทอง 4 เงิน 2 ทองแดง ออนไลน์ มาร์เชียล อาร์ต แดนซ์, ปี 2021 คว้า 1 ทอง 2 เงิน 3 ทองแดง ชิงแชมป์โลก
ขอขอบคุณข้อมูลข่าวสารจาก : https://www.pptvhd36.com/sport/news/218648