ตำรวจ ยับ! Cops Combat ศึกตำรวจชนตำรวจ เวทีเดือด ประลองฝีมือทักษะการต่อสู้ป้องกันตัวตำรวจไทย จัดขึ้นเป็นครั้งแรก ภายใต้สโลแกน “วางยศ ลดอัตตา เกมกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย”ตำรวจหลายสังกัดวางยศวางตำแหน่ง ตบเท้าเข้ามาร่วมประลองฝีมือ Cops Combat ตามรุ่นน้ำหนัก ไม่จำกัดอายุและชั้นยศ โดยมีทั้งประเภทชายและหญิง รวม 16 รุ่น 70 คู่
![](https://i0.wp.com/gmacscore.com/wp-content/uploads/2024/05/439637936_122098314086323583_749038122602414610_n.jpg?resize=1024%2C390&ssl=1)
Cops Combat การแข่งขันศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวของตำรวจ ครั้งแรกในประเทศไทย
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ บรรจุกีฬา Cops Combat เข้าเป็นกีฬาชนิดใหม่ของการแข่งขันกีฬาตำรวจ ปี 2567 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้าราชการตำรวจได้มีการทบทวนการต่อสู้ป้องกันตัว การต่อสู้ระยะประชิด และนำไปปรับใช้ในการทำงานเพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน รวมถึงสร้างแรงบันดาลใจให้ข้าราชการตำรวจได้สนใจในการออกกำลังกาย
ยศไม่เกี่ยว ใส่เดี่ยวได้หมด! ‘Cops Combat’ กีฬาภายในที่ตำรวจต่อยกันได้แบบไม่สนตำแหน่ง
‘บนเวทีไม่มียศ มีแต่ตัวกับใจ’ วันนี้ (28 พฤษภาคม 2567) ณ เวทีราชดำเนิน มีการจัดการแข่งขัน ‘Cops Combat’ หรือกีฬาศิลปะการต่อสู้แบบผสม (MMA) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกีฬาภายในตำรวจในปีนี้
การแข่งขันมีทั้งประเภทชายและหญิง แบ่งทั้งหมด 14 รุ่นตามน้ำหนัก ไม่จำกัดอายุ และไฮไลท์สำคัญอยู่ที่การ ‘ไม่จำกัดชั้นยศ’ โดยผู้สมัครเข้าแข่งขันได้ ต้องเป็นข้าราชการตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจ กองบังคับการอำนวยการตามที่กำหนด รวมถึงโรงเรียนนายร้อยตำรวจ
‘หมัด เท้า เข่า ได้ แต่ห้ามศอก’ คือกติกาหลัก แข่งขันคู่ละ 1 ยก ยกละ 3 นาที และตัดสินแพ้ชนะจากการ Knock out, Tap out และคะแนนจากการออกท่าใช้เทคนิค โดยผู้เข้าแข่งขันจะสวมเสื้อยืดตำรวจและกางเกงตำรวจสีกากี เสมือนออกไปปฏิบัติหน้าที่จับคนร้ายจริงๆ และใส่อุปกรณ์ป้องกันเพื่อความปลอดภัยตามมาตรฐานของกีฬาชนิดนี้
บรรยากาศการแข่งขันเป็นไปอย่างฮึกเหิม เสียงเชียร์จากเพื่อนตำรวจและประชาชนทั่วไปที่เข้าชมกึกก้องไปทั่วเวทีราชดำเนิน คู่เข้าแข่งขันทุกคู่ออกหมัดและเตะแบบไม่ยั้ง สมสโลแกนไม่เกี่ยวกับยศ เพราะบนเวทีนี้มีแค่ตัวกับใจที่นำทักษะการต่อสู้ออกมาใช้อย่างเต็มที่
หลังจบการแข่งขัน ผู้เข้าแข่งขันทุกคู่ไหว้ขอบคุณ หรือขอโทษอีกฝ่าย พร้อมกับเข้าโอบกอดกัน บ้างก็ก้มลงกราบอีกฝ่าย อันเป็นการแสดงออกว่าหลังจบการต่อสู้บนสังเวียนก็สามารถกลับมาเป็นพี่น้องตำรวจที่มีเป้าหมายเดียวกัน นั่นคือการทำเพื่อประชาชน
พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เผยถึงที่มาการแข่งขันครั้งนี้ว่า ปีนี้เป็นปีแรกที่ได้รับโจทย์ว่าจะให้มีการแข่งขันกีฬาป้องกันตัว ประกอบกับนึกถึงความเป็นจริงที่ตำรวจต้องต่อสู้กับคนร้าย จึงเลือกกีฬาศิลปะการต่อสู้แบบผสม (MMA) หรือมวยกรง และตั้งเป้าหมายให้ตำรวจได้ฝึกฝนร่างกายและทักษะการป้องกันตัวระยะประชิด เพื่อนำไปปรับใช้ในการปฏิบัติงานที่มีความเสี่ยงต่อชีวิตได้
กิจกรรมนี้ดูจะเป็นที่ถูกอกถูกใจประชาชนเป็นอย่างมาก จนกลายเป็นกระแสในเฟซบุ๊กหลังมีการประชาสัมพันธ์ บ้างก็เข้ามาคอมเมนต์แซวว่า “ขอตำรวจกับประชาชน” หรือ “อยากเห็นนายพลต่อยกับชั้นประทวน” และส่วนหนึ่งเห็นว่าเป็นกิจกรรมที่สร้างสรรค์ เพราะได้กระตุ้นให้ตำรวจใส่ใจการดูแลร่างกายให้พร้อมกับการปฏิบัติงาน
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) คว้าเเชมป์ Cops Combat ปีเเรก!
![](https://i2.wp.com/gmacscore.com/wp-content/uploads/2024/05/441497320_479347334598809_3510139880944156063_n-1024x683.jpg?ssl=1)
![](https://i1.wp.com/gmacscore.com/wp-content/uploads/2024/05/444990506_479347677932108_5058304478479574372_n-1024x683.jpg?ssl=1)
![](https://i2.wp.com/gmacscore.com/wp-content/uploads/2024/05/445004108_479347587932117_6542649747906809160_n-1024x683.jpg?ssl=1)
![](https://i2.wp.com/gmacscore.com/wp-content/uploads/2024/05/445004217_479347674598775_626348010709019971_n-1024x683.jpg?ssl=1)
![](https://i1.wp.com/gmacscore.com/wp-content/uploads/2024/05/441541908_479347381265471_5833781858625310348_n-1024x683.jpg?ssl=1)
ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก สำหรับกีฬาภายในของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ถูกบรรจุเป็นครั้งแรก กับกีฬา Cops Combat ที่จัดขึ้นที่เวทีมวยราชดำเนิน โดยมี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์ุเพ็ชร รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร. เป็นประธานเปิดการแข่งขันและร่วมชมการเเข่งขันของข้าราชการตำรวจ
ซึ่งในปีนี้ ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) สามารถคว้าเเชมป์ถ้วยรางวัลรวม Cops Combat ไปครองได้สำเร็จ ทั้งนี้ สำหรับกีฬา Cops Combat เป็นกีฬาที่จัดขึ้นมาใหม่เป็นปีแรก โดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้เสนอให้จัดกีฬาชนิดนี้ขึ้นมา เพื่อให้ข้าราชการตำรวจได้ทบทวนการต่อสู้ป้องกันตัว การต่อสู้ระยะประชิด รวมไปถึงยังเป็นการได้ทดสอบสมรรถภาพร่างกายของข้าราชการตำรวจไปในตัวอีกด้วย